โชคดีที่ประเทศไทยห้ามนำเข้า/ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า มิฉะนั้นปัญหาจะหนักหนากว่านี้
US. : บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้นักเรียนเสียสมาธิในการเรียน เพิ่มภาระครู-เสียสมาธิในการสอน
ที่รายงาน: มุมมองของนักการศึกษา ต่อปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน
เนื่องจากขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้าระบาดในโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา องค์กร truth initiative ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของครู ผู้บริหารและที่ปรึกษา ของโรงเรียนชั้นมัธยมกลางและปลายทั่วประเทศ ถึงปัญหาการใช้บุหรี่ไฟฟ้าของเด็กนักเรียนที่ประสบอยู่ประจำวันในโรงเรียน ได้ข้อสรุปดังนี้
•การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่ทุกแห่งหน เริ่มจากชั้นมัธยมกลางถึงปลาย และจุดที่ใช้กันมากคือห้องน้ำโรงเรียน
•บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบที่นักเรียนใช้กันมากที่สุด และเริ่มมีการใช้นิโคตินถุงกันมากขึ้น
•การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต นักเรียนจำนวนมาก เผชิญกับความเครียด ความกังวล และพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ่งชี้ว่า มีอาการเสพติดนิโคตินในระหว่างการเรียนหนังสือ
•การสูบบุหรี่ไฟฟ้าบั่นทอนโอกาสการเรียนรู้ ทำให้ผลการเรียนรู้ลดลง และ เพิ่มภาระงานแก่ครูในการตรวจตราแก่ปัญหา จนครูเหนื่อยล้า หมดแรง
•นโยบายของโรงเรียนครอบคลุมกว้าง มีความลำบากในการบังคับใช้
นักเรียนได้เรียนรู้ที่จะลักลอบและแอบใช้บุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน ทำให้ยากแก่การตรวจตราตรวจสอบ
•การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาระดับชุมชนที่ลุกลามเข้าสู่ห้องเรียน การเพิ่มทรัพยากรแก้ปัญหาในโรงเรียน ไม่สามารถแก้ปัญหาระดับกว้างในชุมชน ที่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องปกติของผู้ปกครอง เพื่อน และการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายของเด็กนักเรียน (จบรายงาน)
ข้อสังเกต
รายงานเสนอให้มีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงของเด็ก
กฏหมายเราห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่แล้ว ต้องมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายในสังคมไทย ต้องพยายามไม่ให้ค่านิยมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งส่งผลต่อการที่เด็กนักเรียนจะเข้ามาสูบ-เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า อย่างที่ระบุในรายงาน
โดยผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่สูบในสถานที่ที่กฏหมายห้ามสูบ ไม่สูบในบ้าน และในทุกที่ที่มีเด็กและเยาวชนอยู่ด้วย
ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ 18 กันยายน 2568
อ้างอิง https://truthinitiative.org/research-resources/emerging-tobacco-products/educators-perspectives-vaping-classroom-disruptive